สุดยอด กองกลาง แห่ง บุนเดสลีกา ปี 2022

Rate this post

กองกลางมักถูกมองว่าเป็นแกนหลักของทุกทีม โดยทั่วไปกองกลางที่ดีที่สุดในโลก มักจะเก่งในการควบคุมลูกบอลและทําลายการป้องกันของคู่ต่อสู้ แล้วใครบ้างคือสุดยอดกองกลาง ในบุนเดสลีกา,  มีตําแหน่งที่แตกต่างกัน ที่กองกลางสามารถเล่นได้ ผู้เล่นเหล่านี้ ทําหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างการป้องกันและการโจมตี พวกเขายังสามารถเล่นในตัวรุก-กองกลาง, ป้องกัน, การโจมตี หรือ ปีก.

วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านมาชมกันว่ากองกลางที่ยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา ปี 2022 จะเป็นใครกันบ้าง?

  1. โฟลเรียน เวิร์ตซ์ Florian Wirtz

สโมสร ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน  Bayer 04 Leverkusen

นักฟุตบอลอาชีพชาวเยอรมัน เขาเล่นในตำแหน่งกองกลาง-ตัวรุก ปัจจุบันเล่นให้กับ สโมสร ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน และเป็นนักเตะ ที่น่าจับตามอง และ ควรยกย่องว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลกคนนึง.

เวิร์ตซ์เข้าร่วมทีมเยาวชนของทีมแพะบ้า แอร์สเทอ เอ็ฟเซ เคิลน์ หรือสโมสรโคโลญ ในปี 2010 ซึ่งเขาอยู่จนได้ย้ายมาเซ็นสัญญาให้กับทีม ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน ในเดือนมกราคม ปี 2020 เวิร์ตซ์ได้เปิดตัวในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน ในบุนเดิสลีกา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ในนัดที่ออกไปเยือนทีมเจ้านกนางนวล เอ็สเฟา แวร์เดอร์เบรเมิน ในขณะเดียวกัน เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของ เลเวอร์คูเซิน ที่เปิดตัวในบุนเดิสลีกา ด้วยวัยเพียง 17 ปี 15 วัน เท่านั้น.

ในวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2020 เวิร์ตซ์ทำประตูแรกให้กับเลเวอร์คูเซินใน นาทีที่ 89 นัดที่เปิดบ้านแพ้ให้กับทีมเสือใต้ สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก 2–4 ในขณะเดียวกัน เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดิสลีกาที่ทำประตูได้ด้วยวัยเพียง 17 ปี 34 วันด้วย.

  1. โจชัว คิมมิช Joshua Kimmich

สโมสร  บาเยิร์น มิวนิค Bayern Munich

โจชัว คิมมิช มิดฟิลด์ของบาเยิร์น มิวนิค อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงที่สโมสร ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ในตำแหน่งของเขาและด้วยสัญญาระยะยาวในมือ นักเตะวัย 27 ปีรายนี้คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญของสโมสรในอีกหลายปีข้างหน้า.

คิมมิช เริ่มเล่นฟุตบอลให้แก่สโมสร เฟาเอ็ฟเบ เบอซิงเงิน (VfB Bösingen) ในเขตเบอซิงเงิน อำเภอร็อทไวล์ (Landkreis Rottweil) ซึ่งเป็นอำเภอบ้านเกิดของเขาในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี ต่อมาเมื่ออายุได้ 12 ปี คิมมิชย้ายไปเล่นฟุตบอลที่สโมสร เฟาเอ็ฟเบ ชตุทท์การ์ท แผนกเยาวชน หลังจากที่คิมมิชผ่านชั้นอายุทุกชั้นแล้ว เขาได้ลงแข่งในรายการบุนเดิสลีกาชุดเยาวชนระดับสูงสุด (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี) ฤดูกาล 2012-13 ทั้งสิ้น 21 ครั้ง นอกจากความสำเร็จในด้านฟุตบอลแล้ว ชีวิตการเรียนยังอยู่ในขั้นดีอีกด้วย, คิมมิชจบระดับการศึกษาพื้นฐานขั้นสูงสุดของเยอรมนี (Abitur) ด้วยเกรดเฉลี่ย 1.7 ตามระบบการศึกษาเยอรมัน ซึ่งเกรด 1 คือดีที่สุด.

คิมมิช ทำสัญญากับสโมสรฟุตบอล ไบเอิร์น มิวนิก ตั้งแต่ฤดูกาล 2015–16 เขามีพัฒนาการทางด้านกีฬาดีขึ้นมากใน ไบเอิร์น มิวนิก ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 อเล็กซานเดอร์ ซอร์นิเกอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรชตุทท์การ์ทในขณะนั้น ถึงกับออกมากล่าวว่าการให้คิมมิชย้ายสโมสรนั้นเป็น “การตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์”

  1. คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู Christopher Nkunku

สโมสร แอร์เบ  ไลป์ซิก   RB Leipzig

คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับสโมสรเยาวชนครั้งแรก ปี 2003-2009 ที่ AS Marolles , ปี 2009-2010 ทีม RCP Fontainebleau ต่อมา ปี 2010-2015 ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากนั้นไม่นานก็ได้เลื่อนขึ้นมาค้าแข้งในระดับสโมสรอาชีพกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2015-2019 ในลีกเอิงซึ่งเป็นในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส  จากนั้นปี 2019 ได้ย้ายสโมสรมายัง ไลป์ซิก ซึ่งเป็นทีมปัจจุบัน.

กองหน้าหนุ่มฝรั่งเศส ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในซีซั่นที่ผ่านมา หลังทำไป 35 ประตู กับ 19 แอสซิสต์ จาก 50 เกมในทุกรายการ พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล นั่นทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง.

ล่าสุดหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสตัดสินใจฝากอนาคตไว้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ต่อไป หลังขยายสัญญาออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่จะหมดลงในปี 2024 โดยในสัญญาใหม่นี้ได้มีการระบุค่าฉีกสัญญาของดาวเตะวัย 24 ไว้ที่ 51 ล้านปอนด์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2023 เป็นต้นไปด้วย  เอ็นคุนคู กล่าว “ผมดีใจที่ได้สวมชุดของไลป์ซิกต่อไป หลังจากเราคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล มันชัดเจนว่าเราจะไม่หยุดลงแค่นี้ เราต้องการคว้าแชมป์มากกว่านี้”.

  1. มาร์โก เรอุส   Marco Reus

สโมสร โบรุสเซีย  ดอร์ทมุนด์   Borussia Dortmund

เรอุส เกิดที่เมืองดอร์ทมุนด์นอร์ธ ไรน์ – เวสต์ฟาเลีย เขาเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขา โปส เอสวี ดอร์ทมุนด์ (Post SV Dortmund) ในปี 1994 และเข้าร่วมทีมเยาวชนของ โบรุสเซีย  ดอร์ทมุนด์ ในปี 1996 เขาเล่นให้ โบรุสเซีย จนกระทั่งเขาออกจากทีม U-19 ของ เรด ไวท์ อาห์เลน (Rot Weiss Ahlen) ใน ฤดูร้อนปี 2549 ในช่วงปีแรกที่นั่นเขาเล่นเป็นกองกลาง-ตัวรุกและเป็นจุดเด่นในหกเกม สำหรับทีมที่สองของสโมสร ซึ่งเล่นในลีกเวสต์ฟาเลียในเวลานั้น เขายิงประตูได้ในแต่ละสองเกมแรก ในปีต่อมาเขาสามารถบุกเข้าไปในทีมชุดแรกของ อาห์เลน ซึ่งเล่นในดิวิชั่นสามของเยอรมัน, เขาให้ความสำคัญใน 16 เกม ของฤดูกาลนั้นสองเกมที่เขาเริ่มต้น เป้าหมายเดียวของเขาเกิดขึ้นในวันแข่งขันสุดท้าย ซึ่งเขาเล่นเต็ม 90 นาที เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนั้นและผลักดันให้ทีมเลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกา 2 รายการ ในปี 2008–09 ขณะอายุ 19 ปี เขามีความก้าวหน้าขั้นสุด ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ โดยลงเล่น 27 เกมและทำประตูได้ 4 ประตู.

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2012 เรอุสเซ็นสัญญากับสโมสรเก่าอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าธรรมเนียมการโอน 17.1 ล้านยูโรในข้อตกลง 5 ปี เขาพูดเกี่ยวกับการย้ายทีมของเขาว่า “ฉันได้ตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าในฤดูกาลที่จะมาถึงนี้ฉันอยากเล่นให้กับสโมสรที่สามารถท้าทายตำแหน่งแชมป์ลีกและรับประกันว่าฉันจะได้เล่นฟุตบอลแชมเปียนส์ลีก โอกาสนี้ในดอร์ทมุนด์ ”

  1. โทมัส มึลเลอร์   Thomas Muller

สโมสร   บาเยิร์น มิวนิค Bayern Munich

โทมัส เข้าร่วมสโมสร ไบเอิร์น มิวนิก เมื่อปี 2000 ขณะอายุได้เพียง 11 ปีและทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนใน ปี 2008 เขาจึงได้เลื่อนจากระดับเด็กฝึกหัดและนักเตะระดับเยาวชน ขึ้นมาอยู่ในระดับทีมสำรองและทำผลงานได้ดีมากขึ้นตามลำดับ จนได้เป็นดาวซัลโวของลีกทีมสำรอง และเพราะฝีเท้าที่ดีของเขา ลูวี ฟัน คาล (กุนซือในขณะนั้น) จึงดึงเขาขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่และประเดิมสนามในนามทีมชุดใหญ่นัดแรกในศึกบุนเดิสลีกาที่พบกับทีม ฮัมบัวร์เกอร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2008.

ฟุตบอลโลก 2014 ในรอบแรกที่เยอรมนี พบกับโปรตุเกส มึลเลอร์สามารถทำแฮตทริก หรือ 3 ประตูได้ นับเป็นนักฟุตบอลคนแรกในการแข่งขันครั้งนี้ที่ทำแฮตทริกได้ ในนาทีที่ 10 (จุดโทษ), นาทีที่ 45 และนาทีที่ 78 และยังมีจังหวะที่ปะทะกับเปเป กองหลังของโปรตุเกส ทำให้เปเปโดนใบแดงไล่ออกจากสนามอีกด้วย.

หลังจาก มึลเลอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Shoe) จากผลงานการทำสกอร์สูงสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ และยังได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม (Best Young Player) ที่อายุน้อยที่สุดของการแข่งขันไปครองด้วยนั้น ทำให้ชื่อของ โทมัส มึลเลอร์ ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกในพริบตา.

  1. เอลลีส สคีรี Ellyes Skhiri

สโมสร  เอฟซี  โคโลญ์จ    FC Köln

หนุ่มตูนิเซีย เล่นในตําแหน่งกองกลาง ให้กับลีกบุนเดสลีกา สโมสรเอฟซี  โคโลญ์จ เขาเกิดที่ฝรั่งเศส และเป็นตัวแทนของทีมชาติตูนิเซีย, สคีรี เป็นนักเตะเยาวชนของ มงต์เปลลิเย่ร์ HSC เขาลงเดบิวต์ในลีกเอิง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปี 2015 กับเอเวียน ธอนออน เกลลาร์ด แทนที่พอล ลาสน์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในนัดที่ทีมเยือนแพ้ 1–0 .

สคีรี เปิดตัวฟุตบอลอวุติโสให้กับฟุตบอลทีมชาติตูนิเซีย ในนัดกระชับมิตรที่ชนะอิหร่าน 1–0 และ ในเดือนมิถุนายน 2018 เขามีชื่ออยู่ในทีม 23 คนของตูนิเซียสําหรับฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียด้วย.

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ปี 2019 สคีรีได้เข้าร่วม สโมสร เอฟซี  โคโลญ์จ ด้วยสัญญาสี่ปี ต่อมาในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2020 เขาทําประตูชัยในเกมเยือนที่ชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2–1 ให้กับสโมสรครั้งแรกด้วย.

  1. ลีออน โกเร็ตซ์ก้า Leon Goretzka

สโมสร บาเยิร์น มิวนิค Bayern Munich

โกเร็ตซ์ก้า เริ่มต้นอาชีพของเขากับ เฟาเอ็ฟเบ โบคุม (VfL Bochum) ในปี 2012 เขาได้ลงเล่นในบุนเดสลีกามากกว่า 100 นัด ให้กับชาลเก้ 04 ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2018 เขาได้รับรางวัลมากกว่า 40 แคป สําหรับทีมชาติเยอรมันและเป็นตัวแทนของประเทศของเขาในฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2017, ฟุตบอลโลก 2018 และยูฟ่ายูโร 2020 เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมโอลิมปิก เยอรมนีที่จบอันดับสองในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016.

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2012 โกเร็ตซ์ก้าได้รับรางวัลฟริตซ์ วอลเตอร์ เมดัลเกรด 2012 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ด้วยเหรียญทอง ในวันที่ 4 สิงหาคม ปี 2012 เขาได้เดบิวต์อาชีพให้กับ โบคุมในรอบ 2 คน ลีกบุนเดสลีกา กับ ดินาโม เดรสเดน ในศึกรีไวร์พาวเวอร์ STADION.

ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2018 โกเร็ตซ์ก้าได้ย้ายมาร่วมทีม บาเยิร์น อย่างเป็นทางการด้วยการเซ็นสัญญา 4 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2022.

  1. ดานี่ โอลโม่ Dani Olmo

สโมสร  แอร์เบ ไลป์ซิก    RB Leipzig

โอลโม่ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับสโมสรเยาวชนในปี 2006-2007 ร่วมกับ เอสปันญ่อล ในปี 2007-2014 สโมสรบาร์เซโลน่า และในปี 2014-2015 ดินาโม ซาเกร็บ จากนั้นเพียงปีเดียวได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในระดับสโมสรอาชีพร่วมกับ ดินาโม ซาเกร็บ ปี 2015-2020 ปัจจุบันย้ายมาค้าแข้งในลีกเยอรมันร่วมกับทีม ไลป์ซิก ซึ่งเป็นสโมสรปัจจุบันในตอนนี้.

เขาเริ่มต้นเข้าร่วมเล่นฟุตบอลในนามทีมชาติสเปนครั้งแรก รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี , ปี 2015 รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี , ปี 2016 รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี , ปี 2018 รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี และในปี 2019 ได้ร่วมเล่นฟุตบอลทีมชาติสเปนชุดใหญ่เป็นครั้งแรก.

ในวันที่ 25 มกราคม ปี 2020 โอลโม่ได้ย้ายไปเล่นให้กับลีกในบุนเดสลีกา สโมสร แอร์เบ ไลป์ซิก โดยเซ็นสัญญา 4 ปี.

โอลโม่เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปน ที่คว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรเปี้ยนยูฟ่ารุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2019 ที่อิตาลีและ ซานมารีโน โดยลงเล่น 4 นัด ช่วยได้ 1 ประตู และยิงได้ 3 ประตู รวมถึง 1 ประตู ในรอบชิงชนะเลิศซึ่งทําให้เขาได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกด้วยในปีนั้น.

 

Last update: : กันยายน 19, 2022

Category: News