10 นักเตะ ที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดในประวัติศาสตร์

Rate this post

football-ground-at-sea-port

การทำแอสซิตส์ หรือ การจ่ายบอลในวงการฟุตบอล ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญพอๆ กับการทำประตูเลย เพราะถ้าการจ่ายบอลที่ผิดพลาด ก็มักจะทำให้เพื่อนร่วมทีมที่รอทำแต้มอยู่หน้าประตูพลาดโอกาสนี้ไป

มีนักเตะอยู่หลายๆ คนที่ทำการแอสซิสต์ได้มากแม้จะเป็นเพียงช่วงต้นปี และก็มีนักเตะที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทำแอสซิสต์มานานแล้วจนทำให้พวกเขานั้นกลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะจอมแอสซิสต์แห่งทศวรรษ

วันนี้เราจึงได้รวบรวมกับ 10 นักเตะที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล มาดูกันว่าจะเป็นใครบ้าง

 

1. ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)

จากสโมสร: อาร์เจนตินา, บาร์เซโลน่า, เปแอสเช  : 380 แอสซิสต์

ปีแล้วปีเล่าด้วยความคงเส้นคงวาที่น่าประหลาดใจ ลิโอเนล เมสซียังคงสร้างสถิติต่อไป และปี 2023 ก็ไม่ต่างกัน ชาวอาร์เจนไตน์วัย 35 ปีไม่เพียงแต่สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการทำประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแอสซิสต์ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นอีกครั้งถึงวิสัยทัศน์ คุณภาพ และความเป็นผู้ใหญ่ของเขา

ผู้ที่สร้างสถิติคว้าถ้วยรางวัลมาอย่างมาย และถ้วยรางวัลสูงสุดของเขาก็คือ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ เขาเป็นผู้ชนะคนล่าสุดของฟุตบอลโลกเมื่อปี 2022 เขาเป็นดาวค้างฟ้าในยุคนี้ของวงการฟุตบอลแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาล แต่เขาเป็นผู้ครองสถิตินี้ของการทำแอสซิสมากที่สุด แต่ปัจจุบันเมสซี่อยู่กับ เปเอสซ แต่ยังไม่มีรายงานว่าเขาสามารถทำแอสซิสต์ได้เท่าไหร่เป็นที่แน่ชัด

 

2. โธมัส มุลเลอร์ (Thomas Muller)

จากสโมสร: เยอรมนี, บาเยิร์น มิวนิค  : 295 แอสซิสต์

นักฟุตบอลชาวเยอรมัน โธมัส มุลเลอร์ เขาเล่นเป็นกองกลางตัวรุก-กองหน้า ให้กับสโมสรบาเยิรน์ มุลเลอร์ได้รับการยกย่องจากการวางตำแหน่ง, การทำงานเป็นทีม, ความทรหดอดทน และอัตราการทุ่มเท และแสดงให้เห็นความสม่ำเสมอทั้งในการทำประตูและสร้างสรรค์ประตู เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นนอกบอลที่ดีที่สุดตลอดกาลเนื่องจากการรับรู้ตำแหน่งของเขา มุลเลอร์ครองสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในบุนเดสลีกา โดยทำได้ 159 ครั้ง

เขามักถูกมองว่าเป็นแอสซิสต์คิงของยุโรป โดยมุลเลอร์ทำแอสซิสต์ให้สโมสรและทีมชาติไปแล้ว 295 ครั้ง และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งและมีพรสวรรค์ที่สุดในยุคของเขา

 

3. อังเคล ดิ มาเรีย (Angel Di Maria)

จากสโมสร: อาร์เจนตินา, โรซาริโอ, เบนฟิกา, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เปแอสเช, ยูเวนตุส  : 275 แอสซิสต์

ดิ มาเรีย เป็นนักฟุตบอลที่เล่นให้กับสโมสรยูเวนตุส เขาเป็นที่รู้จักในด้านความเร็ว การเลี้ยงบอล และความว่องไว ดิมาเรียถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขาและเป็นหนึ่งในผู้เล่นอาร์เจนตินาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

อังเคล ดิ มาเรียทำไปแล้ว 4 ประตูจาก 19 นัดในเซเรีย อา ฤดูกาล 2022/2023 เมื่อมองในแง่ของการจ่ายบอลของเขา ดิ มาเรีย เอร์นานเดซ จ่ายบอลได้ที่ประมาณ 35.81 ครั้งระหว่างเกม โดยมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จ 78.59% นอกจากนี้เขายังจ่ายคีย์พาส 2.79 ครั้งในแต่ละเกม ซึ่งนำไปสู่โอกาสในการทำประตูที่สำคัญ โดยรวมแล้วการทำแอสซิสต์ของเขาอยู่ที่ 0.37 % ต่อ 90 นาที สถิตินี้ทำให้เขาอยู่เหนือผู้เล่น 97 เปอร์เซ็นต์ในเซเรียอา

 

4. คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)

จากสโมสร: โปรตุเกส, สปอร์ติ้ง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ยูเว่นตูส  : 258 แอสซิสต์

เอ่ยถึง คริสเตียโน โรนัลโด ไม่มีใครไม่รู้จักเขา ดาวค้างฟ้าแห่งวงการฟุตบอล อดีตกองหน้าของพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันย้ายไปเล่นกับสโมสร อัล นาสเซอร์ ในซาอุดิอาระเบีย เขาเป็นนักฟุตบอลที่ทำประตูได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ในยุคนี้ก็จริงแต่อันดับการทำแอสซิสต์ของเขาได้เป็นอันดับที่สี่ของโลก ณ เวลานี้ด้วยการทำแอสซิสต์ไปทั้งหมด 258 ครั้งในช่วงเวลาตลอดการค้าแข้งของเขากับทีมอื่นๆ

ถึงแม้ว่าปัจจุบันในทีมอัล นาสเซอร์เขาทำประตูได้ทั้งหมด 11 ประตูในฤดูกาลนี้ในลีก แต่เขาก็เป็นนักเตะที่ติดอันดับ 2 ในรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดของทีม คงต้องรอดูกันต่อไปว่านักเตะวัย 37 รายนี้จะทำประตูหรือแอสซิสต์เพิ่มอีกเท่าไหร่ในอนาคตอันใก้ลนี้

 

5. หลุยส์ ซัวเรซ (Luis Suarez)

จากสโมสร: อุรุกวัย, นาซิอองนาล, อาแจ็กซ์, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลนา, แอตเลติโก มาดริด  : 256 แอสซิสต์

กองหน้าวัย 36 ปี จากอุรุกวัย เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการทำประตูและแอสซิสต์อีกคน ปัจจุบันเขาเล่นให้กับ เกรมิโอ (Grêmio) สโมสรจากประเทศบราซิล เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องการจ่ายบอลที่แม่นยำ การทำประตู และการครองบอลอย่างสบายๆ ซัวเรซได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคของเขาและเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

ซัวเรซได้รับรางวัลรองเท้าทองคำยุโรป 2 สมัย รองเท้าทองคำจากเอเรดิวิซี 1 รางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 1 รางวัล และถ้วยรางวัลปิชิชิ 1 รางวัล เขายิงไปแล้วกว่า 500 ประตูในอาชีพให้กับสโมสรและทีมชาติ ซัวเรซเป็นหนึ่งในนักเตะทั้งสามคนที่โดดเด่นเช่นเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี และ เนย์มาร์ โดยเขาคว้าสามแชมป์ลาลีกา โกปาเดลเรย์ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลแรกของเขา ในฤดูกาลที่สองของเขา เขาได้รับรางวัล Pichichi Trophy และ European Golden Shoe ครั้งที่สองของเขา กลายเป็นผู้เล่นคนแรกตั้งแต่ปี 2009 ที่คว้าทั้งสองรางวัลนี้

 

6. เมซุต โอซิล (Mesut Ozil)

จากสโมสร: เยอรมนี, ชาลเก้, แวร์เดอร์ เบรเมน, อาร์เซนอล, เฟเนร์บาห์เช่  : 253 แอสซิสต์

อดีตนักฟุตบอลทีมชาติจากเยอรมัน ที่เคยเล่นเป็นกองหน้าให้สโมสรชื่อดังของพรีเมียร์ลีกอย่าง อาร์เซนอล และ จากฝั่งคาลันตาอย่าง เรอัล มาดริด โอซิลเป็นที่รู้จักจากทักษะทางเทคนิค ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการจ่ายบอล และวิสัยทัศน์ เขายังสามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย

เขาเป็นนักเตะที่ครองสถิติคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ของเยอรมันมากที่สุด เขาเปิดตัวชุดใหญ่ให้กับทีมชาติเยอรมันในปี 2009 ขณะอายุ 20 ปี และปรากฏตัวในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 5 รายการ เขาเป็นผู้ทำแอสซิสต์สูงสุดในฟุตบอลโลก 2010 และยูฟ่ายูโร 2012 ซึ่งเขาช่วยให้เยอรมนีเข้าถึงรอบรองชนะเลิศสองครั้ง โอซิลช่วยให้เยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 แต่ถอนตัวจากการแข่งขันระดับนานาชาติในปี 2018

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา เขาประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เรื้อรัง

 

7. ฟร้องค์ ริเบรี่ (Franck Ribery)

จากสโมสร: ฝรั่งเศส, เมตซ์, กาลาตาซาราย, มาร์กเซย, บาเยิร์น มิวนิค, ฟิออเรนติน่า, ซาแลร์นิตาน่า  : 249 แอสซิสต์

อดีตนักเตะตำแหน่งปีก ชาวฝรั่งเศส เขาเป็นที่รู้จักในด้านความเร็ว พลังงาน ทักษะ และการจ่ายบอลที่แม่นยำ ริเบรีได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเตะที่รวดเร็ว พลิกแพลง และเลี้ยงบอลได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นผู้ควบคุมบอลด้วยเท้าได้อย่างดีเยี่ยม ขณะอยู่กับบาเยิร์น เขาได้รับการยอมรับในเวทีโลกว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคของเขา ซีเนดีน ซีดาน จนซีดานยังเคยเรียกริเบรีว่าเป็น “อัญมณีแห่งฟุตบอลฝรั่งเศส” ด้วย

ในช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับบาเยิร์น ในฤดูกาล 2012–13 ที่คว้าเทรเบิลได้ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงร่วมกับลิโอเนล เมสซีและคริสเตียโน โรนัลโดในรายชื่อสามคนที่เข้าชิงรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ 2013 อีกด้วย

 

8. เชส ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas)

จากสโมสร: สเปน, บาร์เซโลน่า, เชลซี, โมนาโก, โคโม  : 248 แอสซิสต์

นักฟุตบอลชาวสเปน ผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางให้กับสโมสรโคโมในลีกเซเรีย บี ของอิตาลี เขาทำลายสถิติหลายอย่างของแต่ละสโมสร จนได้รับชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในตำแหน่งของเขา และเขายังได้รับรางวัลเอฟเอคัพในปี 2005 ด้วย

ในช่วงเวลาที่เขาอยากับบาซ่าร์ เขาพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา, โกปาเดลเรย์, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย เขายังเป็นบุคคลสำคัญในชัยชนะของสเปนในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปในปี 2008 และ 2012 และเป็นส่วนหนึ่งในชัยชนะในฟุตบอลโลกปี 201 ซึ่งการจ่ายบอลของเขาส่งผลให้ อันเดรส อิเนียสต้า ทำประตูและได้รับชัยชนะในรอบชิงชนะเลิศด้วย

 

9. ชาบี (Xavi)

จากสโมสร: สเปน, บาร์เซโลนา, อัล ซาดด์  : 237 แอสซิสต์

ซาเวียร์ เอร์นันเดซ ครูอุส (Xavier Hernández Creus) อดีตนักฟุตบอลของบาร์เซโลน่า ที่ปัจจุบันเขาเป็นผู้จัดการให้กับสโมสรเก่าอย่างบาร์ซ่าด้วย เขาเป็นที่รู้จักกันดีในตำแหน่งกองกลาง ชาบีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขามีชื่อเสียงในด้านการจ่ายบอล วิสัยทัศน์ การเก็บบอล การวางตำแหน่ง และการทำแอสซิสต์

ชาบี เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่เล่นฟุตบอลยุโรป และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รวมกัน 150 รายการ กับบาร์เซโลนา ชาบีคว้าแชมป์ลาลีกา 8 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัย

ชาบีเคยได้อันดับสามในตำแหน่งนักเตะประจำปีแห่งฟีฟ่า (FIFA World Player of the Year) และในปี 2009 ตามด้วยอันดับสามสำหรับรางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ (FIFA Ballon d’Or) ในปี 2010 และ 2011 ต่อมาในปี 2011 เขาได้รับรางวัลรองชนะเลิศจาก ผู้เล่นยอดเยี่ยมของยูฟ่าในยุโรป

ในปี 2015 เขาย้ายออกจากบาร์เซโลนาเพื่อไปยังอัล ซาดด์ ซึ่งเขาคว้าถ้วยรางวัลได้ 4 รายการก่อนจะเลิกเล่นในปี 2019 เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่ได้รับการบันทึกว่าลงแข่งมากกว่า 1,000 แมตช์

 

10. เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne)

จากสโมสร: เบลเยียม, เกงค์, โวล์ฟสบวร์ก, แมนเชสเตอร์ ซิตี้  : 228 แอสซิสต์

นักเตะชาวเบลเยียม กองกลางตัวสำคัญของกองทัพเรือใบสีฟ้า แมน-ซิตี้ เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก และบันดิตทั้งหลายมักจะยกย่องว่าเขาเป็น “นักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุด”

เขาเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ลีกคัพ 5 สมัย และเอฟเอคัพ 1 สมัยกับสโมสร ในปี 2017–18 เขามีส่วนสำคัญในสถิติของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ของการเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่เก็บแต้มได้ 100 คะแนนในฤดูกาลเดียว ต่อมาในปี 2019–20 เดอ บรอยน์ทำสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ในลีกฤดูกาลเดียวกัน และได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งฤดูกาล ของปีนั้น และต่อมาเขาได้รับรางวัลนี้อีกครั้งในปี 2021–22 ด้วย

Last update: : มิถุนายน 13, 2023

Category: 8Xbet