7 สุดยอดนักเตะ ที่เคยเซ็นสัญญากับบาร์เซโลน่า พร้อมกับโรนัลโด้

ในช่วงฤดูร้อนปี 1996 บาร์เซโลนามีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นที่จดจำของวงการฟุตบอล และสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดของการเปลี่ยนแปลงนั้นคือการเซ็นสัญญากับกองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิลที่ชื่อดังอย่าง โรนัลโด้ นาซาริโอ้ (Ronaldo Nazario)

โดยก่อนหน้านี้ สโมสรคาตาลันสูญเสียเงินไปอย่างมากให้กับ โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff) ตำนานของลูกหนังแห่งดัตช์ หลังจากสโมสรดูแลครัฟฟ์มากว่า 8 ปี และต่อมาอีกหนึ่งของการเปลียนแปลงคือ บ็อบบี้ ร็อบสัน ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงสุด ณ เวลานั้นคือ การที่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการคนใหม่ของทีม และเขาได้แนะนำนักเตะดาวรุ่งชาวบราซิลผู้นี้ให้กับสโมสรบาร์ซา

ในปี 2009 ร็อบสันกล่าวว่า “ประธานของบาร์เซโลนา บอกผมว่า ‘เราต้องการคนที่จะนำเราให้ถึงฝั่งฝัน เราต้องการกองหน้าระดับท็อป คุณรู้ไหมว่าจะเป็นใครที่เหมาะสมกับสโมสรของเราตอนนี้’ ผมตอบว่า ‘รู้สิ มีเด็กหนุ่มดาวรุ่งจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (PSV Eindhoven) สโมสรจากดัตช์ ที่ผมชอบมาก ผมคิดว่าเขายอดเยี่ยมเลย แต่เขามีความบ้าบิ่นในตัวอย่างที่สุดเหมือนกัน’”

แต่ในเวลานั้น ทางสโมสรกลับไม่ลังเลที่จะคว้าตัวเขาเข้ามาร่วมทีม เมื่อค่าตัวของเด็กหนุ่ม ที่มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น กลับมีค่าตัวมีสูงริ้ว และพวกเขาก็จำเป็นต้องจ่ายให้ พีเอสวี ไปด้วยจำนวนเงินที่ 20 ล้านปอนด์ เพื่อให้ได้ลายเซ็นของเขาจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ราวกับเมล็ดถั่ว ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของเขาในคาตาโลเนีย กองหน้ารายนี้ก็สามารถทำประตูได้ 47 ประตูจากการลงเล่นเพียง 49 นัด

ด้วยเหตุนี้ บาร์ซ่าจึงได้ถ้วยรางวัลแชมป์มาครองถึงสามรายการในฤดูกาล 1996-97 ได้แก่ โกปา เดล เรย์, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ และยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ และใช้เวลาไม่นาน โรนัลโดกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของบาร์เซโลนา เขาเป็นผู้เล่นที่ทำให้บาร์ซายังคงประสบความสำเร็จอีกหลายครั้งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนคาดการณ์ไว้ผิดไปทั้งหมดว่าสโมสรจะประสบกับช่วงที่ยากลำบากอย่างแน่นอน หลังจากการจากไปของครัฟฟ์ แต่การเซ็นสัญญาอื่นๆ กับอีกหลายๆ นักเตะในเวลานั้นก็ได้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งพวกเขาก็มีความสามารถและความโดดเด่นไม่แพ้โรนัลโด้เลยทีเดียว

ดังนั้น วันนี้ เราจะพาท่านผู้อ่านมาดูกันว่าในช่วงเวลาที่โรนัลโด้เริ่มมาอยู่กับบาร์ซ่า ในฤดูกาลนั้นบาร์เซโลน่าในปี 1996 ได้เซ็นสัญญากับนักเตะคนไหนบ้างที่มาพร้อมกันกับโรนัลโด้ ไปดูกัน

โลร็องต์ บลองค์ (Laurent Blanc)

ครัฟฟ์เป็นผู้ชักชวนให้บลองก์เข้าร่วมกับสโมสรคาตาลันแห่งนี้ อาจไม่แปลกใจเลยที่เขาอยู่ที่สโมสรเพียงหนึ่งปีหลังจากที่โค้ชชาวดัตช์ถูกไล่ออกในวันที่เขาโน้มน้าวให้กองหลังชาวฝรั่งเศสเซ็นสัญญา

บลองค์ คือผู้ชนะฟุตบอลโลกและแชมป์ยุโรป เขาลงเล่นให้กับสโมสร 38 ครั้งสำหรับทีมของร็อบสัน เขามีส่วนที่ช่วยทีมคว้าสามถ้วยรางวัลในฤดูกาล 1996-97 ก่อนที่เขาจะกลับบ้านเกิดเพื่อเซ็นสัญญากับมาร์กเซย

บล็องก์จบอาชีพค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2003 ก่อนที่เขาจะย้ายไปโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือยูไนเต็ดเคยชื่นชมกองหลังหลังรายนี้จากแดนไกลมานานหลายปี

เฟอร์กูสันกล่าวว่า: “ครั้งแรก (ผมพยายามที่จะเซ็นสัญญากับเขา) ย้อนกลับไปในปี 1996 เมื่อโลรองต์ยังอยู่กับโอแซร์ จากนั้นขณะที่เขาอยู่ที่บาร์เซโลน่าและอินเตอร์นาซิอองนาล ผมติดตามผลงานของเขาตลอด แม้ว่าเขาจะลงแข้งให้กับทีมอื่น”

หลุยส์ เอ็นริเก้ (Luis Enrique)

เป็นเรื่องยากที่นักเตะจะเปลี่ยนจากสโมสรอันโด่งดังอย่าง เรอัล มาดริดไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า มีผู้เล่นเพียง 12 คนที่เล่นให้กับทั้งสองสโมสรตั้งแต่ปี 1990 ในฤดูร้อนปี 1996 หลุยส์ เอ็นริเก้ยุติการคุมทีม 5 ฤดูกาลในเมืองหลวงของสเปนเพื่อย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับร่วมของโลส บลังโกสตลอดกาลอย่างบาร์ซ่า

ดาวเตะทีมชาติสเปนลงเล่นให้ทีมกาตาลันไปแล้ว 300 นัด ยิงไป 109 ประตู ‘ลูโช่’ กลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ อย่างรวดเร็วสำหรับการการรับตำแหน่งกองกลาง หลังจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองได้ลืมไปทุกแอคชั่นและความจงรักภักดีต่อมาดริดก็หายไปหมดสิ้น

ในปี 2014 หลุยส์ เอ็นริเก เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนา เขาคว้าเก้าถ้วยรางวัลจากการคุมทีมสามปี รวมถึงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลแรกด้วย

ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ (Juan Antonio Pizzi)

กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ใช้เวลา 2 ฤดูกาลที่บาร์เซโลน่า และในช่วงเวลานั้นยิงได้ 18 ประตูจากการลงเล่น 73 นัด ปิซซี่ กลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมที่ประสบความสำเร็จของ ร็อบสัน ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 ต่อมา ในปี 2019 อดีตโค้ชชิลี ยกย่องผลกระทบของร็อบสันที่มีต่อทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนว่า

“ผมกับเขาถึงแม้มีหลายครั้งที่เขามักเรียกชื่อผมผิด แต่การสื่อสารของเรามันกลับไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะ แค่เพียงมองตากันเราต่างรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร แต่เขาคือผู้นำทีมที่แข็งแกร่ง เขาต้องพาบาร์เซโลนาผ่านยุคที่ยากลำบากที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้ช่วงหลังครัฟฟ์นั้นปราศจากบาดแผลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “เขาอยู่โรงเรียนเก่า ใกล้ชิดกับนักเตะ และบทเรียนจากเขาไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น แม้เขาเป็นเพียงมนุษยะรรมดา แต่เขาเป็นคนพิเศษและเมื่อใดก็ตามที่เราพบกัน เราจะจดจำเขาด้วยความรัก” ปิซซี่กล่าวถึงร็อบสัน

ฮริสโต สตอยคอฟ (Hristo Stoichkov)

สตอยคอฟเซ็นสัญญากับสโมสรครั้งแรกในปี 1990 และเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของบาร์เซโลนาในยุคครัฟฟ์ แข้งบัลแกเรียออกเดินทางไปปาร์มาชั่วคราวในปี 1995 แต่กลับมาในอีกครั้งในทีม เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่โรนัลโด้มาถึง

ในช่วงเวลาที่สองของเขากับบาร์ซา เขาสร้างผลกระทบได้น้อยกว่ามาก แม้จะคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1997 แต่สตอยคอฟจะมีสถานะเป็นตำนานที่คัมป์ นูเสมอ การสนับสนุนของ ครัฟฟ์ ต่อผู้ชนะ บัลลง ดอร์ (Ballon d’Or) ครั้งเดียวนั้นกล่าวถึงอิทธิพลของเขาทั้งหมด

“ก่อนที่ สตอยคอฟ จะเข้ามา เรามีนักเตะในทีมที่ดีมาก แต่คุณจะมีทีมที่มีแต่คนที่ดีมากๆ ไม่ได้” ครัฟฟ์กล่าว “คุณต้องการคนอย่างสตอยช์คอฟที่มีความดุดันในทางการรุกสู้”

จิโอวานนี่ (Giovanni Silva)

นักเตะชาวบราซิลมาจากสโมสรซานโตส เขาเคยสร้างปาฎิหารด้วยการพาทีมคว้าถ้วยรางวัลที่น่าประทับใจถึงเจ็ดรายการในระยะเวลาสามปีที่สโมสร กองกลางรายนี้ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปสำหรับบาร์ซ่า ซึ่งลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลไปแล้ว 13 นัดในอาชีพของเขา

โจวานนี่เล่นให้กับบาร์เซโลน่าฝั่งสเปน, โอลิมเปียกอสฝั่งกรีก และสโมสรซานโตสของบราซิล ในระดับนานาชาติ เขาเล่นให้กับทีมชาติบราซิล ติดทีมชาติ 18 นัด ยิงได้ 6 ประตู เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมบราซิลที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1998

ในช่วงรุ่งเรือง จิโอวานนี่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีค่าตัวมากที่สุดของบาร์เซโลน่า แต่หลังจากการมาถึงของ ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง หลุยส์ ฟาน ฮาลที่สโมสร โจวานนี่ก็มีความขัดแย้งกับผู้จัดการทีมชาวดัตช์รายนี้ พร้อมกับเพื่อนชาวบราซิล ริวัลโด้ (ซึ่งฟาน ฮาลต้องการใช้เป็นปีกซ้าย แม้ว่าเขาจะประท้วง) ด้วยความบ้าของเขา จนทำให้ ซันนี่ เอ็นเดอร์ซัน (Sonny Anderson) เขาเรียกฟาน ฮาลว่า “ฮิตเลอร์สำหรับชาวบราซิลและคนบ้าอัตตา” ที่โอลิมเปียกอส จิโอวานนี่ มีวันที่มีความสุขที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาชีพของเขา และยังเป็นที่จดจำในฐานะตำนานของสโมสรมาตลอด

วิคเตอร์ บายา (Vitor Baia)

อดีตนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ที่เกษียณอายุแล้ว บายาเป็นผู้รักษาประตูคนแรกของร็อบสันในฤดูกาล 1996-97 หลังจากย้ายมาจากปอร์โต้ เขาหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดตลอดกาล ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขามีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งเขาเริ่มเป็นตัวแทนอาชีพตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยช่วยทีมคว้าแชมป์ 25 รายการ และสุดท้ายก็เหลืออยู่กับสโมสรในบทบาทการทูตแทน

นอกจากนี้ หลังจากเล่นให้กับบาร์เซโลนา บายาก็ปรากฏตัวร่วมกับทีมชาติโปรตุเกสในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป 2 สมัย และฟุตบอลโลก 2002การมาถึงของหลุยส์ ฟาน กัลในฐานะผู้จัดการทีมในปี 1997 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดอาชีพค้าแข้งในบาร์เซโลนาช่วงสั้นๆ ของบายา เขากลับไปให้ปอร์โตแบบยืมตัวและอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเลิกเล่นในฐานะตำนานของปอร์โตในปี 2007

เฟร์นานโด คูโต้ (Fernando Couto)

คูโต้ มาถึงบาร์เซโลนาจาก ปาร์มา หนุ่มชาวอิตาลีมาเพื่อเข้าร่วมทีมพร้อมกันกับ บายาอดีตเพื่อนร่วมทีมปอร์โตของเขา นักเตะทีมชาติโปรตุเกสลงเล่นให้คาตาลันไปแล้ว 44 นัดก่อนจะย้ายไปลาซิโอในปี 1998

ตลอดระยะเวลา 21 ปีในอาชีพค้าแข้ง เขาเล่นให้กับสโมสรชั้นนำหลายแห่งในโปรตุเกส สเปน และอิตาลี (12 ฤดูกาลในประเทศหลัง) ลงเล่นเกือบ 600 นัดและคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในแต่ละประเทศ รวมถึงสามรายการในยูฟ่า ถ้วยรางวัล ในระดับนานาชาติ คูโต้ลงเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกส 110 เกม เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2002 และแชมป์ยุโรป 3 สมัย

ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของเขาในสีเสื้อบาร์เซโลนาคือในปี 1997 เขาพาทีมผงาดโดยการคว่าแชมป์ โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศที่คัมป์ นู เขาทำประตูแรกและประตูเดียวให้กับสโมสรในเกมที่เอาชนะลาส พัลมาส 3-0