8 นักเตะ ที่ค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ ของเลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ มีประวัติในการซื้อนักเตะที่มีศักยภาพสูง และพัฒนาพวกเขาให้เป็นผู้เล่นระดับท็อป รวมถึงการเซ็นสัญญาด้วยเงินก้อนโตเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม โดยรวมแล้ว เลสเตอร์ ซิตี้ แสดงความเต็มใจที่จะลงทุนในนักเตะดาวรุ่งแม้ว่านั่นจะป็นเงินจำนวนมหาศาลและมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของการซื้อของทีมก็ตาม

วันนี้ เราจะมาย้อนดูกันว่าจะมีนักเตะคนไหนบ้างที่เคยมีการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุด โยเราได้จัด 8 อันดับแรกของนักเตะแสนแพงของเลสเตอร์ ดังนี้

1. ยูริ ตีเลอมานส์ (Youri Tielemans)

เลสเตอร์ ซิตี้ ทำลายสถิติการโอนเพื่อเซ็นสัญญากองกลางชาวเบลเยียมจาก อาแอส โมนาโก ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2019

ตีเลอมานส์  ถือเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากพรสวรรค์และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของเขาในสนาม เขาเป็นกองกลางที่มีทักษะสูงและเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งกองกลางตัวรับ กองกลางตัวรุก และกองกลางตัวรับ

ตีเลอมานส์  เข้าร่วมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ จาก AS โมนาโก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 โดยมีค่าธรรมเนียมตามรายงานอยู่ที่ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมการย้ายทีมที่เป็นสถิติของสโมสรในขณะนั้น ตั้งแต่เข้าร่วมจิ้งจอกน้ำเงิน ตีเลอมานส์   ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะผู้เล่นคนสำคัญและมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของทีม

ความสามารถของ ตีเลอมานส์   ในการควบคุมกองกลางและระยะการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้เขาเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับเลสเตอร์ซิตี้ นอกจากนี้ เขายังมีสายตาที่เฉียบคมในการทำประตู และทำประตูสำคัญๆ ให้กับทีมจิ้งจอก รวมถึงประตูชัยในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 2021

นอกจากนี้ ตีเลอมานส์ ยังเป็นผู้เล่นอายุน้อยและมีพรสวรรค์และมีศักยภาพมากมาย เขาได้พิสูจน์ตัวเองในระดับสูงสุดของฟุตบอลแล้วและคาดว่าจะปรับปรุงและพัฒนาต่อไปในฐานะผู้เล่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะค่าตัวแพงและเป็นการลงทุนที่มีค่าสำหรับเลสเตอร์ ซิตี้

2. อิสลาม สลิมานี (Islam Slimani)

กองหน้าชาวแอลจีเรียเซ็นสัญญาจากสปอร์ติ้ง ซีพี ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสรที่ 29 ล้านปอนด์ในเดือนสิงหาคม 2016สลิมานีเป็นที่ต้องการสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมากจากหลายสโมสรทั่วยุโรป ซึ่งทำให้ค่าธรรมเนียมการโอนของเขาสูงขึ้น เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะผู้ทำประตูมากมายในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยเขายิงไป 27 ประตูจาก 33 เกมลีกในฤดูกาล 2015-2016

เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015-2016 และพวกเขากำลังมองหาการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมสำหรับแคมเปญ Champions League ที่กำลังจะมาถึง ความสามารถในการทำประตูที่พิสูจน์แล้วของสลิมานีทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่น่าดึงดูดใจสำหรับสโมสรและเป็นส่วนเสริมที่มีค่าสำหรับทีมของพวกเขา

น่าเสียดายที่สลิมานีไม่ได้ทำตามความคาดหวังในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเลสเตอร์ ซิตี้ เขาต่อสู้กับอาการบาดเจ็บและล้มเหลวในการจำลองฟอร์มของเขาจากเวลาของเขาที่สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยยิงได้เพียง 13 ประตูจาก 46 นัดให้กับจิ้งจอก เป็นผลให้เขาถูกยืมตัวไปยังหลายสโมสรก่อนที่จะออกจากสโมสรอย่างถาวรในปี 2020

โดยสรุป แม้ว่าสลิมานีจะเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดของเลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานั้น การขาดความสำเร็จของเขาที่สโมสรหมายความว่าเขาไม่ได้รับการจดจำในฐานะผู้เล่นที่มีค่าตัวหรือประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของพวกเขา

3. เอเดรียน ซิลวา (Adrien Silva)

การเซ็นสัญญาชาวโปรตุเกสอีกคนจาก สปอร์ติ้ง ซีพี กองกลาง เอเดรียน ซิลวา ได้รับการเซ็นสัญญาจากเลสเตอร์ซิตี้ด้วยค่าธรรมเนียม 22 ล้านปอนด์ในเดือนสิงหาคม 2017

ซิลวาเป็นกองกลางที่ได้รับการจัดอันดับสูงซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเป็นประจำสำหรับสปอร์ติ้งลิสบอนและทีมชาติโปรตุเกส เขาได้รับการพิจารณาว่าเป็นกองกลางด้านเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ที่มีเป้าหมายซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่น่าดึงดูดใจในการเซ็นสัญญากับเลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังมองหาการเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางหลังจากที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ย้ายออกไปที่ เชลซี เมื่อปีที่แล้ว ซิลบาถูกมองว่าเป็นตัวสำรองที่มีศักยภาพสำหรับก็องเต้และเป็นผู้เล่นที่สามารถช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เหลืออยู่จากการจากไปของเขา

อย่างไรก็ตาม เวลาของซิลวากับเลสเตอร์ ซิตี้ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการยุ่งเหยิงกับเอกสารของเขา เขาไม่สามารถเล่นให้กับสโมสรได้จนถึงเดือนมกราคม 2018 ซึ่งหมายความว่าเขาพลาดช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล เมื่อเขาเดบิวต์ในที่สุด เขาพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างผลกระทบและไม่สามารถสร้างตัวเองให้เป็นขาประจำของทีมได้

ด้วยเหตุนี้ ซิลวาจึงถูกปล่อยให้ยืมตัวกับหลายสโมสรก่อนที่เขาจะออกจากสโมสรอย่างถาวรในฤดูร้อนปี 2021 แม้ว่าค่าตัวของเขาจะสูง แต่การขาดความสำเร็จที่เลสเตอร์ ซิตี้ หมายความว่าเขาไม่ถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีค่าตัวมากที่สุดของสโมสร หรือผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จ

4. อาเหม็ด มูซา (Ahmed Musa)

ปีกซ้ายชาวไนจีเรียเซ็นสัญญาจากซีเอสเคเอ มอสโก ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร ณ ขณะนั้นที่ 16.6 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2016

มูซาเป็นกองหน้าที่ได้รับการจัดอันดับสูงซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกรัสเซียในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับซีเอสเคเอ มอสโก เขาเป็นที่รู้จักในด้านความเร็ว ทักษะ และความสามารถในการทำประตู ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่น่าดึงดูดใจในการเซ็นสัญญากับเลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังมองหาการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมหลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015-2016 มูซาถูกมองว่าเป็นส่วนเสริมที่มีศักยภาพในแนวรุกและเป็นผู้เล่นที่สามารถช่วยรักษาความสำเร็จในฤดูกาลที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม มูซาพยายามที่จะสร้างผลกระทบที่เลสเตอร์ ซิตี้ เขายิงได้เพียง 2 ประตูจากการลงสนาม 21 นัดให้กับจิ้งจอกสยาม และไม่สามารถเป็นตัวหลักในทีมได้ เป็นผลให้เขาถูกยืมตัวไปยัง ซีเอสเคเอ มอสโก และต่อมาถูกขายให้กับ อัล-นัสเซอร์ในซาอุดิอาระเบีย

โดยสรุป แม้ว่ามูซาจะเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดของเลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานั้น การขาดความสำเร็จที่สโมสรหมายความว่าเขาไม่ถูกจดจำในฐานะผู้เล่นที่มีค่าตัวหรือประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของพวกเขา

5. เวสลีย์ โฟฟานา (Wesley Fofana)

เซ็นเตอร์แบ็คชาวฝรั่งเศสเซ็นสัญญาจากแซงต์ เอเตียนน์ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ในเดือนตุลาคม 2020 กลายเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดของเลสเตอร์ ซิตี้

จากพรสวรรค์และศักยภาพอันโดดเด่นของเขา จึงทำให้เขาเป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ ณ เวลานั้น โฟฟานาเป็นที่ต้องการตัวของสโมสรชั้นนำหลายแห่งทั่วยุโรปเนื่องจากผลงานที่น่าประทับใจในลีกเอิง เขาเป็นกองหลังที่มีพรสวรรค์สูงและเล่นได้หลากหลาย สามารถเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คหรือฟูลแบ็คก็ได้ เขาเป็นที่รู้จักในด้านร่างกาย ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศ และทักษะการเข้าปะทะที่แข็งแกร่ง

เลสเตอร์ ซิตี้ กระตือรือร้นที่จะเซ็นสัญญากับโฟฟาน่าเพื่อเสริมแนวรับหลังแฮร์รี่ แม็กไกวร์ย้ายไปยังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โฟฟานาถูกมองว่าเป็นตัวสำรองที่มีศักยภาพในระยะยาวสำหรับแม็กไกวร์ และเป็นผู้เล่นที่สามารถช่วยรักษาสถิติเกมรับที่แข็งแกร่งในพรีเมียร์ลีก

นับตั้งแต่เข้าร่วมกับ Foxes โฟฟานาได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของทีมและทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในพรีเมียร์ลีก เขาสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับจอนนี่ อีแวนส์ เซ็นเตอร์แบ็คคนอื่นๆ และช่วยให้เลสเตอร์ ซิตี้รักษาสถิติเกมรับที่แข็งแกร่งในลีก

นอกจากนี้ โฟฟานายังเด็กและมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนาและปรับปรุงในฐานะผู้เล่น เขาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่มีแนวโน้มมากที่สุดในยุโรป และคาดว่าจะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับเลสเตอร์ ซิตี้ ในอีกหลายปีข้างหน้า ปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะค่าตัวแพงและเป็นการลงทุนอันมีค่าสำหรับสโมสร

6. เจมส์ แมดดิสัน (James Maddison)

มิดฟิลด์ตัวรุกเซ็นสัญญามาจากนอริช ซิตี้ ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ในเดือนมิถุนายน 2018 แมดดิสันมีฤดูกาลที่โดดเด่นกับนอริช ซิตี้ในแชมเปี้ยนชิพ โดยเขายิงได้ 14 ประตูและแอสซิสต์ 8 ครั้งจากการลงเล่น 44 นัด ฟอร์มการเล่นของเขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก แต่เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าลายเซ็นของเขาไป

การมาถึงของแมดดิสันที่เลสเตอร์ ซิตี้ ถูกมองว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในอนาคตของสโมสร เขาเป็นที่รู้จักในด้านความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถด้านเทคนิค และสายตาที่มุ่งไปยังเป้าหมาย ซึ่งทำให้เขากลายเป็นส่วนเสริมที่มีค่าในตำแหน่งกองกลางของเลสเตอร์ ซิตี้ เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของทีม และกลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลเนื่องจากผลงานที่น่าประทับใจในสนาม

แมดดิสันทำผลงานในระดับสูงให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ได้อย่างต่อเนื่องในฤดูกาลถัดมา โดยทำประตูและแอสซิสต์ในขณะที่มีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีม เขายังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยติดทีมชาติอังกฤษหลายนัด

การแสดงที่น่าประทับใจของแมดดิสันและศักยภาพของเขาที่จะพัฒนาเป็นผู้เล่นที่ดียิ่งขึ้นทำให้เขากลายเป็นทรัพย์สินราคาแพงสำหรับเลสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานว่าสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอื่น ๆ สนใจเซ็นสัญญากับเขา มูลค่าของเขาน่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

7. อโยเซ่ เปเรซ (Ayoze Perez)

กองหน้าชาวสเปนเซ็นสัญญาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2019  เปเรซได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในผู้เล่นตัวรุกคนสำคัญของนิวคาสเซิล โดยยิงได้ 13 ประตูและแอสซิสต์ 4 ครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ฟอร์มการเล่นของเขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีก แต่เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าลายเซ็นของเขาไป

การมาของเปเรซที่เลสเตอร์ ซิตี้ ถูกมองว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในตัวเลือกเกมรุกของสโมสร เขาเป็นผู้เล่นตัวรุกสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นเป็นปีกหรือกองหน้าได้ และความสามารถทางเทคนิคของเขาและสายตาที่มุ่งสู่เป้าหมายทำให้เขาเป็นส่วนเสริมที่มีค่าสำหรับทีมเลสเตอร์ ซิตี้

เปเรซได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของทีม โดยมีส่วนร่วมกับการทำประตูและแอสซิสต์ ในขณะที่มีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีม เขาสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับ Jamie Vardy และ James Maddison และช่วยให้เลสเตอร์ซิตี้จบในห้าอันดับแรกของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-2020

ความเก่งกาจของเปเรซและความสามารถของเขาในหลายๆ ตำแหน่งทำให้เขากลายเป็นทรัพย์สินราคาแพงสำหรับเลสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอายุและศักยภาพของเขาที่จะพัฒนาขึ้นในฐานะผู้เล่น เขาได้รับการคาดหมายว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่มีค่าสำหรับสโมสรในอีกหลายปีข้างหน้า

8. คักลาร์ โซยุนชู (Caglar Soyuncu)

กองหลังชาวตุรกีเซ็นสัญญาจากไฟร์บวร์กด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์ในเดือนสิงหาคม 2018

โซยุนชูได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในกองหลังอายุน้อยที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกา โดยลงเล่นให้ไฟร์บวร์กไป 26 นัดในฤดูกาลที่แล้ว การแสดงของเขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป แต่เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าลายเซ็นของเขาไป

การมาถึงของ โซยุนคู ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญในอนาคตของสโมสร เขาเป็นที่รู้จักในด้านร่างกาย ความสงบในการเล่นบอล และความสามารถในการอ่านเกม เขาสร้างตัวเองอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของทีมและสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับจอนนี่ อีแวนส์ กองหลังเพื่อนร่วมทีม

ผลงานของ Soyuncu ในพรีเมียร์ลีกนั้นโดดเด่น ช่วยให้เลสเตอร์ซิตี้รักษาสถิติเกมรับที่แข็งแกร่งในลีก เขายังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยได้ติดทีมชาติตุรกี

ศักยภาพของ โซยุนคู ในการพัฒนาเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก และผลงานของเขาในสนามทำให้เขากลายเป็นทรัพย์สินราคาแพงสำหรับเลสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอายุและศักยภาพของเขาที่จะพัฒนาขึ้นในฐานะผู้เล่น เขาได้รับการคาดหมายว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่มีค่าสำหรับสโมสรในอีกหลายปีข้างหน้า